"ทำความดีต้องฝืนทำ"
การทำความดีต้องฝืนตลอด ให้จำคำนี้ให้ดี ต้องฝืนตลอดเพราะกิเลสนี้ดันตลอด
ดันเราให้ลงทางต่ำดันตลอด ต้องฉุดต้องลากตัวเองเสมอ จึงเรียกว่าต่อสู้กัน ไม่ฝืนไม่ได้นะ จะปล่อยตามบุญตามกรรมมีแต่กิเลสลากลงทั้งนั้นแหละ
การฝืนนี่เพื่อจะเอาตัวรอด ได้มากได้น้อยก็มีส่วนมีทาง ให้มีการฝ่าฝืน ถ้าไม่มีเลยก็ปล่อยเลยตามเลย ตามบุญตามกรรมนั่นแหละ ไม่เกิดประโยชน์อะไร
นี่พวกภาวนา เราเคยพูดเสมอ ถอดออกมาจากหัวใจมาพูดนี่วะ พวกภาวนากรรมฐานเราภาวนาไม่ค่อยได้เรื่อง ๆ คือกิเลสนั้นน่ะมันก่อกองไฟไว้ในหัวใจตลอดเวลา ความฟุ้งซ่านรำคาญ กิเลสภายในมันผลักดันออกไปให้อยากคิดอยากปรุง อยากรู้อยากเห็นสิ่งต่าง ๆ ไม่มีคำว่าอิ่มพอ มันจะอยากของมันตลอด
ทีนี้เราปล่อยเท่าไรก็ยิ่งเตลิดเปิดเปิง ๆ ความหิวยิ่งส่งเข้าหนักเข้า ๆ ทีนี้ย้อนเข้ามาหาใจเพื่อความสงบไม่ได้เลย พอจะมานั่งภาวนากำหนดจ่อลงไปตรงนี้นะ ตรงที่เปลวไฟคือกิเลสมันแสดงตัว พอจ่อเข้าไปถูกมันตีหน้าผากทีเดียวหงายไปเลย ๆ จิตสงบไม่ได้ บางครั้งจิตให้สงบไม่ได้ นี่เรียกว่าหงายไปเลย ๆ เข้าไปทีไรถูกตี ๆ สุดท้ายก็เข็ดไม่อยากภาวนา พอจะเริ่มภาวนาคิดเห็นกิเลสตีหน้าผากแล้ว ๆ โอ๊ย ไม่ภาวนาละกิเลสจะได้ไม่ตีหน้าผาก แต่มันไม่ได้คิดซิว่า กิเลสไม่ได้ตีหน้าผาก มันไม่ฟาดทั้งหัวหรือ ไม่ได้สอบถาม
พพระธรรมเทศนาหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔.
Comments